แล้วอย่าลืมมาสมัครกานละๆๆ
ชุมนุมรักษ์สิ่งแวดล้อม โรงเรียนมหาวชิราวุธจังหวัดสงขลา [MV E-Club]
ยินดีต้อนรับสู่ชุมชนคนรักษ์สิ่งแวดล้อม
โครงการทั้งหมดของชุมนุม
วันอาทิตย์, ธันวาคม 20, 2552
YPG
แล้วอย่าลืมมาสมัครกานละๆๆ
วันพุธ, กันยายน 16, 2552
สนใจสมัครด่วน
เชื่อหรือไม่ว่าทุกวันนี้ คนไทยสร้างขยะ 40,000 ตันต่อวัน
เชื่อหรือไม่ว่าทุกวันนี้ คนไทยสร้างขยะ 40,000 ตันต่อวัน นึกภาพว่า ช้างโตเต็มวัยอวบอ้วนสมบูรณ์ น้ำหนักจะอยู่ที่ 4 ตัน (4,000 กิโลกรัม) ไอ้ขยะที่พวกเราสร้างต่อวัน หนักเท่ากับช้างตัวใหญ่ๆ 10,000 ตัวเชียวนะ!! คิดดูว่าภาระการแบกขยะที่หนักเท่ากับช้างหมื่นตัวนี่มันไม่ใช่เล่นๆ เลย รถขนขยะก็ต้องใช้น้ำมัน ไหนจะถนนทรุดโทรมอีกเพราะขนกันทุกวี่วัน และในขยะ 4หมื่นตันต่อวัน นี้ เป็นขยะถุงพลาสติก ถึง 1,800 ตันต่อวัน เทียบเท่าช้างยักษ์ 450 ตัว ถุงแต่ละใบใช้เวลาย่อย 400 - 1,000 ปี ซึ่งถ้าเราช่วยกันลดถุงพลาสติกลงได้ แค่เพียง 10% จะช่วยลดค่าใช้จ่ายในการเก็บและจัดการขยะของรัฐได้ถึง 650 ล้านบาทต่อปี (ภาษีพวกเราล้วนๆ) และลดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ถึง 1 ล้านตันต่อปีเชียวนะ!
งานนี้ไม่ใช่การประกาศจากภาครัฐฯแต่เพียงอย่างเดียว เพราะภาคสังคม NGO รวมถึงภาคเอกชนผ่านสมาคมผู้ค้าปลีกแห่งประเทศไทย ต่างก็เข้าร่วมโครงการด้วย ถึงแม้ว่านี่จะเป็นแค่เพียงการเริ่มต้น แต่ก็นับว่าเป็นการเริ่มต้นที่ดี เพราะได้รับความร่วมมือจากหลายฝ่าย แต่การรณรงค์ครั้งนี้จะประสบความสำเร็จไม่ได้ ถ้าไม่ได้รับความร่วมมือจาก "คุณ"
เอาถุงผ้า กระเป๋า เป้ ตะกร้า หรือถุงก๊อบแก๊บใบเก่าออกมาใช้กันเถอะ
วันพฤหัสบดี, กันยายน 10, 2552
100 สถานที่ ที่น่าจดจำก่อนจะหายไปจากโลก
"100 สถานที่ ที่น่าจดจำก่อนจะหายไปจากโลก"
100 สถานที่ ที่น่าจดจำก่อนจะหายไปจากโลก เป็นผลงานที่จะสะท้อนให้เห็นปัญหาของภาวะโลกร้อนที่กำลังส่งผลกระทบกับธรรมชาติและมนุษย์ ถูกจัดทำขึ้นโดยกลุ่ม Co+Life ซึ่งร่วมก่อตั้งโดย Stine Norden และ Søren Rud ซึ่งเป็นผู้ที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของนิทรรศการ “Earth from Above” and “Spirit of the Wild” ในประเทศเดนมาร์ก
100 สถานที่ ที่น่าจดจำก่อนจะหายไปจากโลก ถูกผลิตขึ้นมาเป็นหนังสือ โปสเตอร์ และโปสการ์ด รวมถึง 100 สารคดีสั้นๆ ของสถานที่ ที่จะหายไปจากโลกเพราะผลกระทบของภาวะโลกร้อน ที่จะได้ออกอากาศทางโทรทัศน์ของหลายๆประเทศ ซึ่งรวมถึงช่อง 3 ของประเทศไทยด้วย
ผลกระทบของภาวะโลกร้อนต่อ 100 สถานที่นั้น แบ่งออกเป็น 9 ประเภทดังนี้
1. ระดับน้ำทะเลที่สูงขึ้น
2. การละลายของน้ำแข็งในทะเล
3. อุณหภูมิที่สูงขึ้น
4. แนวปะการังถูกทำลาย
5. ฝนตกน้อยลง
6. ธารน้ำแข็งละลาย
7. กลายเป็นทะเลทราย
8. การละลายของน้ำแข็งบนพื้นดิน
9. สภาพอากาศที่รุนแรง
ท่านสามารถเข้าไปดู 100 สถานที่ ที่ไหนจะหายไปเพราะสาเหตุข้างต้นได้ที่ www.100places.com
ส่วนกรุงเทพมหานครของเราก็เป็นสถานที่ ที่ 58 ซึ่งเราควรจะจดจำไว้ก่อนที่จะหายไปเพราะระดับน้ำทะเลสูงขึ้น ถึงเวลาแล้วหรือยังที่จะหันมามองปัญหาภาวะโลกร้อน หรือต้องรอให้ถึงวันที่กรุงเทพจมอยู่ใต้ทะเลก่อน
ที่มา http://www.greentheearth.info/
วันอังคาร, กันยายน 08, 2552
โลกร้อนส่งผล 100 ปีระดับน้ำทะเลพุ่ง 1 เมตร
![](http://static.guim.co.uk/sys-images/Environment/Pix/pictures/2007/08/17/greenland2.jpg)
องค์กรอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมชื่อดังของโลก ประเมินว่า ระดับน้ำทะเลจะเพิ่มสูงกว่า 1 เมตร ในราว 100 ปีข้างหน้า
กองทุนสัตว์ป่าโลก หรือ "ดับเบิลยูดับเบิลยูเอฟ" (WWF) ซึ่งเป็นองค์กรอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมระหว่างประเทศ คาดการณ์ว่าในปีพ.ศ. 2643 หรือเกือบ 100 ปีข้างหน้า ระดับน้ำทะเลจะเพิ่มขึ้นถึง 1.2 เมตร ซึ่งมากกว่าตัวเลขที่สหประชาชาติคาดการณ์เอาไว้ที่ 59 เซนติเมตรถึง 1 เท่าตัว
"ภาวะโลกร้อนจะส่งผลให้น้ำแข็งขั้วโลก ทั้งขั้วโลกเหนือและใต้ละลาย ทำให้ระดับน้ำทะเลเพิ่มสูงขึ้นและเกิดน้ำท่วม ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อประชากรถึง 1 ใน 4 ของจำนวนประชากรโลก ดังนั้นเราจึงตัดสินใจแจ้งเตือนเรื่องดังกล่าวก่อนที่จะมีการประชุมแก้ปัญหาโลกร้อนที่ประเทศเดนมาร์ก ในเดือนธันวาคม 2552" รายงานกองทุนสัตว์ป่าโลกระบุ
ที่มา www.khaosod.co.th
กองทุนสัตว์ป่าโลก หรือ "ดับเบิลยูดับเบิลยูเอฟ" (WWF) ซึ่งเป็นองค์กรอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมระหว่างประเทศ คาดการณ์ว่าในปีพ.ศ. 2643 หรือเกือบ 100 ปีข้างหน้า ระดับน้ำทะเลจะเพิ่มขึ้นถึง 1.2 เมตร ซึ่งมากกว่าตัวเลขที่สหประชาชาติคาดการณ์เอาไว้ที่ 59 เซนติเมตรถึง 1 เท่าตัว
"ภาวะโลกร้อนจะส่งผลให้น้ำแข็งขั้วโลก ทั้งขั้วโลกเหนือและใต้ละลาย ทำให้ระดับน้ำทะเลเพิ่มสูงขึ้นและเกิดน้ำท่วม ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อประชากรถึง 1 ใน 4 ของจำนวนประชากรโลก ดังนั้นเราจึงตัดสินใจแจ้งเตือนเรื่องดังกล่าวก่อนที่จะมีการประชุมแก้ปัญหาโลกร้อนที่ประเทศเดนมาร์ก ในเดือนธันวาคม 2552" รายงานกองทุนสัตว์ป่าโลกระบุ
ที่มา www.khaosod.co.th
10 วิถีทางเลือก ใช้ชีวิตลดโลกร้อ
10 วิถีทางเลือก ใช้ชีวิตลดโลกร้อน
10 วิถีทางเลือก ใช้ชีวิตลดโลกร้อน (momypedia)
โดย Eiffel
ปัญหาโลกร้อนที่เกิดขึ้นในปัจจุบันได้แผ่อิทธิฤทธิ์ไปทั่วทุกมุมโลกและถือเป็นสัญญาณอันตรายที่ทำให้ทุกคนต้องหันมาใส่ใจและทบทวนบทบาทตัวเอง รวมทั้งร่วมกันหาทางเยียวยารักษาโลกใบนี้ไว้ก่อนที่จะสายเกินไป!
แต่ถ้าคุณยังไม่รู้ว่าจะช่วยลดโลกร้อนจากตรงไหน เรามี 10 วิถีทางเลือกดีๆ มาบอก รับรองคุณช่วยรักษาโลกได้แน่นอนคะ
1. ใช้ถุงผ้า แทนถุงพลาสติก เป็นสิ่งที่คุณทำได้ง่ายๆ และใกล้ตัวมากที่สุด โดยเลือกขนาดของถุงที่ผ้าแบบเก๋ๆ ดีไซน์โดนใจคุณไว้สักหนึ่งใบ เวลาไปชอปปิ้งข้าวของเครื่องใช้ชิ้นเล็กๆ อย่างต่างหู เครื่องประดับ เสื้อผ้าชิ้นเล็กชิ้นน้อย เมื่อซื้อเสร็จแล้วก็เอาใส่ถุงผ้าแทน ก็เป็นการช่วยลดการใช้ถุงพลาสติกขนาดเล็ก และโฟมที่ใช้ในการบรรจุสินค้าได้เป็นจำนวนมาก
ที่สำคัญ อย่าลืมปฏิเสธถุงพลาสติกเวลาซื้อสินค้าให้เป็นนิสัย เพราะเมื่อนำกลับมาบ้านแล้วคนส่วนใหญ่จะทิ้งลงถังขยะและทุกครั้งที่ต้องใช้ถุงพลาสติกให้นึกถึงหลัก Reuse ก่อนใช้
2. เปลี่ยนมาใช้ของมือสอง เสื้อผ้าหรือเครื่องประดับบางชิ้นไม่จำเป็นต้องซื้อใหม่เสมอ เพราะสินค้าทุกชิ้นที่วางขายล้วนมีต้นทุนในการผลิตอย่างมหาศาล การซื้อแบบไม่ติดเบรก จึงเท่ากับกระตุ้นการผลิตและเร่งตักตวงใช้ทรัพยากรมากเกินไป ลองเปลี่ยนจากการซื้อของใหม่เป็นการซ่อมหรือใช้ของมือสองแทน รวมไปถึงใช้เสื้อผ้าที่ผลิตจากเส้นใยธรรมชาติ เช่น เสื้อผ้าออร์แกนิกไม่ต้องฟอกย้อม ที่ช่วยป้องกันไม่ให้สารเคมีที่มีอันตรายเข้าสู่ร่างกายของตัวคุณเองได้
3. เดินหรือขี่จักรยานแทนการใช้รถยนต์ ถ้าคุณจะไปซื้อของในจุดที่รัศมีไม่ไกลจากบ้านนัก ก็ไม่ต้องขับรถยนต์ไป ให้ใช้เดินหรือขี่จักรยานแทน เช่น เดินออกไปซื้อกับข้าวหน้าหมู่บ้าน ก็ถือเป็นการออกกำลังกายทางหนึ่ง ที่สำคัญอย่าลืมเอาตะกร้า ถุงผ้า หรือปิ่นโตไปใส่ให้เคยชิน เป็นการช่วยลดการน้ำมันและประหยัดเงินได้อีกด้วย
4. เลือกใช้ เลือกซื้อ ผลิตภัณฑ์ที่มีบรรจุภัณฑ์หรือหีบห่อน้อยๆ เพื่อลดปริมาณขยะจำนวนมากที่จะเกิดขึ้นในโลก และหันมาใช้สินค้าที่มีบรรจุภัณฑ์ทำจากธรรมชาติแทนกล่องโฟม เช่น กล่องใส่ข้าวจากกระดาษหรือชานอ้อย หรือซื้อขนมที่ห่อใบตองกินแทนขนมขบเคี้ยว หรือสั่งอาหารปิ่นโตมากินที่ออฟฟิศ นอกจากราคาไม่แพงแล้ว บรรจุภัณฑ์ยังไม่เป็นพิษเป็นภัยต่อโลกด้วย
5. ลดปริมาณขยะในบ้าน ใช้ประโยชน์จากสิ่งของต่างๆ ในบ้านให้คุ้มค่า เช่น ถุงใส่ของที่ได้มาจากการจับจ่ายซื้อของ ก็สามารถนำมาใส่ของได้อีกหรือถ้าเก่าแล้วก็นำมาใช้เป็นถุงใส่ขยะ เสื้อผ้าที่ไม่ใช้แล้ว ก็นำมาดัดแปลงเป็นของใช้อื่นๆ เช่น ผ้าขี้ริ้ว หรือนำไปบริจาคให้องค์กรการกุศล
6. แยกขยะให้เป็นนิสัย ไม่ได้ยุ่งยากอะไร เพียงแยกขยะให้เป็นสัดส่วน เช่น ขยะย่อยสลายได้ ขวดแก้วใส ขวดแก้วสี กล่องกระดาษ กระดาษสิ่งพิมพ์ กระป๋องโลหะ พลาสติก และขยะทั่วไป การแยกขยะเป็นการช่วยให้สามารถนำขยะประเภทต่างๆ ไปใช้ประโยชน์ได้อย่างเต็มที่มากขี้น ตามสูตร Reduce (ลดการใช้), Reuse (นำกลับมาใช้ใหม่) และRecycle
7. ช่วยกันปลูกต้นไม้เยอะๆ ไปปลูกป่าไม่ได้ ก็ปลูกในกระถางก็ได้ ต้นไม้ทำหน้าที่เหมือนเป็นปอดให้กับระบบนิเวศวิทยา ปลูกต้นไม้ 1 ต้นจะดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์ได้ 1 ตันตลอดอายุของมัน
8. หยุดใช้สินค้าที่มีสาร CFC ตัวการสำคัญในการทำลายชั้นโอโซนโลก หรือถ้าจะใช้ก็ใช้น้อยที่สุดหรือเท่าที่จำเป็น โดยเฉพาะเครื่องใช้ฟ้าที่ก่อให้เกิดความเย็น เช่น ตู้เย็น เครื่องปรับอากาศ ทั้งในอาคารและรถยนต์ สเปรย์ฉีดผม สเปรย์กันยุง ฯลฯ
9. หันมาใช้ผลิตภัณฑ์เสริมความงามที่ทำจากธรรมชาติ เช่น มะขามเปียก ดินสอพอง ขมิ้นขัดผิว เพื่อสุขภาพที่แข็งแรงและร่างกายที่สดชื่น เพราะในเครื่องสำอางเหล่านี้ก็ไม่มีส่วนประกอบสารเคมีที่อันตรายต่อตัวเรา และทำร้ายธรรมชาติเหมือนกับผลิตภัณฑ์เสริมความงามทั่วไป
10. คิดในแง่บวก ใครๆ ที่เคยใช้ชีวิตตามใจตัวเอง ไม่สนใจดูแลโลกหรือธรรมชาติ ย่อมรู้สึกอึดอัดบ้างเป็นธรรมดาที่ห้ามตัวเองไม่ให้ทำนู้นทำนี่ได้อย่างสุขสบายเหมือนเก่า แต่ถ้าคุณทำได้เป็นกิจวัตร คุณก็จะเป็นอีกคนหนึ่งที่ช่วยลดปัญหาร้อนโลกได้
คงไม่ใช่เรื่องยากเกินไปใช่ไหมคะ ที่เราจะช่วยกันดูแล
วันอาทิตย์, กันยายน 06, 2552
เปรียบเทียบถุงพลาสติก..ก๊อบแก๊บ vs OXO vs Biodegradable
ถุงพลาสติกแบ่งกว้างๆ ได้ 3 ประเภท เรียงจากแบบที่ดีต่อสิ่งแวดล้อมมากไปน้อย ได้แก่ ไบโอดีเกรดเอเบิล > ออกโซดีเกรดเอเบิล > ก๊อบแก๊บ (โพลีเทน) มีข้อดี ข้อเสียต่างกันไปดังนี้
BIODEGRADABLE ไบโอดีเกรดเอเบิล (Bio Bag)
- ย่อยสลายภายใน 6-9 เดือน ภายใต้สภาพแวดล้อมที่เหมาะสม (โดนแสงแดด โดนอากาศ)
- ผลิตจากพืช เช่น ข้าวโพด มันฝรั่ง แป้ง ฯลฯ
- หมักเป็นปุ๋ยชีวภาพได้ ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม ไม่เป็นพิษ สัตว์กินแล้วไม่ตาย
- แพง เลยยังไม่เป็นที่นิยมใช้
- เก็บไว้นานๆ จะเปื่อย
OXO-DEGRADABLE ออกโซดีเกรดเอเบิล
- ถุงย่อยสลาย ภายใน 2-5 ปี ภายใต้สภาพแวดล้อมที่เหมาะสม(โดนแดด โดนอากาศ) ถ้าไม่ได้อยู่ในสภาพแวดล้อมที่เหมาะแก่การย่อย อาจมีชีวิตอยู่ยาวนาน เป็นร้อยปีได้เช่นกัน
- เป็นการดัดแปลงพลาสติก (ปิโตรเลียม) ให้เหนียวน้อยลง ย่อยง่ายขึ้น
- เก็บสต็อกนานๆ ได้
- ราคาปานกลาง ห้างใหญ่ๆ เริ่มนำมาใช้แล้ว แต่มักจะเขียนข้อความบนถุงว่า "ไบโอดีเกรดเอเบิล" ทำให้คนสับสน เข้าใจผิดคิดว่าเป็นถุงที่ทำจากพืช
- รีไซเคิลได้ แต่ยากในการคัดแยกประเภทถุงออกจากกัน
- หมักปุ๋ยไม่ได้ ถ้ายังย่อยไม่สมบูรณ์ สัตว์กินแล้วตายได้
ถุงพลาสติกทั่วไป
- ใช้เวลาย่อย 100 - 450 ปี
- ผลิตจากน้ำมัน/ก๊าซธรรมชาติ เป็นพลาสติกที่เรียกว่า โพลีเทน POLYTHENE
- เหนียว ทนทาน
- ราคาถูก
- รีไซเคิลได้ แต่ส่วนใหญ่ก็ได้แค่รอบเดียว (ไม่สามารถนำกลับมารีไซเคิลซ้ำแล้ว ซ้ำอีกหลายๆ รอบเหมือนอย่าง แก้ว หรือ อะลูมิเนียม)
- สัตว์กินแล้วตาย คลุมหัวนกน้ำ สัตว์น้ำ อุดตันลำไส้ปลาตาย
ประกวดเรียงความ "ถ้าโลกนี้ไม่มีน้ำมัน..."
กลุ่มบริษัทซีดีจี ชวนน้อง ๆ มัธยมสมัครร่วมโครงการ Young CDG Writer Awards ครั้งที่ 4 การประกวดเรียงความภายใต้หัวข้อ “ถ้าโลกนี้ไม่มีน้ำมัน...” ชิงทุนการศึกษามูลค่ารวม 90,000 บาท วันนี้ - 11 ก.ย. 52
กลุ่มบริษัทซีดีจี ผู้ดำเนินธุรกิจให้บริการเทคโนโลยีสารสนเทศแบบครบวงจรในประเทศไทย ตระหนักถึงความสำคัญของการรักษาสิ่งแวดล้อม และทรัพยากรธรรมชาติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งทรัพยากรน้ำมัน ซึ่งเป็นกลไกหนึ่งของระบบพลังงานที่มีความจำเป็นต่อกลไกต่างๆของการขับเคลื่อนระบบเศรษฐกิจในโลกนี้ จึงได้จัด โครงการ Young CDG Writer Awards ครั้งที่ 4 การประกวดเรียงความภายใต้หัวข้อ “ถ้าโลกนี้ไม่มีน้ำมัน...” เพื่อให้เยาวชนได้มีเวทีแสดงออกในการค้นคว้าข้อมูลความรู้ และแสดงความคิดเห็น จินตนาการ ภายใต้ผลงานเรียงความ ที่แสดงว่า ถ้าในวันหนี่งในอนาคตในโลกใบนี้ไม่มีน้ำมันแล้วจะเกิดอะไรขึ้น และถ้าไม่มีน้ำมัน เราจะหาทางออกได้อย่างไร
หลักเกณฑ์การประกวด
* ผู้เข้าประกวดต้องเป็นนักเรียนในระดับมัธยมศึกษาเท่านั้น ( มัธยมศึกษาปีที่ 1 – 6 )
* เป็นแนวคิด, จินตนาการ / ข้อเสนอ / ที่จะช่วยลดปัญหาวิกฤตด้านน้ำมัน รวมทั้งข้อเสนอของการใช้พลังงานทดแทน / การใช้พลังงานอย่างมีคุณค่า
* เป็นการนำเสนอประสบการณ์ตรงในชีวิตประจำวัน
* ความยาว ไม่เกิน 2 หน้า กระดาษ A 4
* พิมพ์ด้วย font : Angsana UPC ขนาด 16 pt. ( ถ้าในกรณีที่ไม่มี PC สามารถเขียนด้วยลายมือได้ แต่ขอให้เป็นลายมือที่อ่านง่าย/ชัดเจน )
น้อง ๆ ที่สนใจสามารถส่งผลงานเข้าประกวดได้ตั้งแต่ วันนี้ - 11 กันยายน 2552
สถานที่ส่งผลงาน
คุณจรีย์วิบูล บุญชนะโกศล
ฝ่ายประชาสัมพันธ์ กลุ่มบริษัทซีดีจี
202 อาคาร ซีดีจี เฮ้าส์ ถนนนางลิ้นจี่ แขวงช่องนนทรี เขตยานนาวา กรุงเทพฯ 10120
รายละเอียดเพิ่มเติม
ฝ่ายประชาสัมพันธ์ กลุ่มบริษัทซีดีจี
โทร. 0-2678-0200 ต่อ 2992 , 2995-9
โทรสาร 0-2678-0321-3
www.cdg.co.th
e-mail : cdgpr@cdg.co.th
วันพุธ, กันยายน 02, 2552
7000ก้าวต่อวัน คุณแข็งแรง โลกยั่งยืน
![](http://gallery.photo.net/photo/5845996-md.jpg)
เนื่องจากเดือนกันยานที่จะถึงนี้มีวันสำคัญเกี่ยวกับโลกนั่นคือ วัน คาร์ฟรีเดย์ ผมจึงอยากรณรงคให้คุณใช้ยานพาหนะที่ดีที่สุด ที่ไม่ต้อกังวลค่าน้ำมัน ไม่ต้องห่วงหลังเรื่องเจ๊เกียวจะขึ้นค่าโดยสาร นั่นก็คือ เจ้าสองเท้าของเรานั่นเอง หลายๆคนที่ผมรู้จักเป็นโรคขี้เกียจเดิน แม้จะไปแค่ปากซอยก็ไม่วายขับมอไซค์ออกไป ทั้งที่พระเจ้าสร้างยานพาหนะที่ดีที่สุดให้กับเรา มีผลการวิจัยจากสถาบันวิทยาศาสตร์หลายๆแห่งยืนยันตรงกันว่า มนุษย์เราควรจะเดินวันละ 7000ก้าว เพื่อสุขภาพที่ดีของคุณ เพระาจะทำให้อายุยืนอย่างน้อยอีก 7ปีทีเดียว เนื่องจากร่างกายจะได้เผาผลาญในไขมันส่วนเกินออกไป สำหรับผู้ที่อยากลดน้ำหนักด้วย หรือทุกๆหนึ่งชั่วโมงเราควรจะเดิน 5-10นาที บางคนอาจจะถือโอกาสนี้ในการเริ่มต้น "เดิน"อย่างเป็นกิจวัตร ขอยกตัวอย่างรัฐบุรุษจีนท่านหนึ่ง นาม "เจียง เจ๋อ หมิน"อดีตผู้นำของจีน ได้กล่าวว่า "คนเราควรจะเดินวันละ 10000ก้าว อันเป็นจำนวนเท่ากับ 18หลุมของสนามกอลฟ์พอดี" เอาล่ะ งั้นขอจบแค่นี้ เพราะผมจะเริ่มออกเดินแล้ว เพราะมันจะช่วยสกัด ทั้งโรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง ไขมันผิดปกติ โรคหัวใจและหลอดเลือด อัมพาต และมะเร็ง แถมยัไม่ปล่อยควันพิษดว้ย เรียกว่าทั้งเราและโลกเข้มแข็งพอกัน
วันพุธ, สิงหาคม 12, 2552
"Bangkok Big Switch" แข่งกันประหยัดไฟ
ธนาคาร HSBC ชวนชาวกรุงเทพฯร่วมแข่งขันประหยัดไฟฟ้า เพื่อคืนชีวิตสู่โลกสีเขียว กับโครงการ "Bangkok Big Switch" ตั้งแต่ วันนี้ - 30 ก.ย. 52
ธนาคาร HSBC ร่วมกับ การไฟฟ้านครหลวง และพันธมิตร จัดโครงการ "Bangkok Big Switch" ขึ้น เพื่อให้ความรู้แก่ประชาชนด้านผลกระทบของมนุษย์ต่อสภาวะโลกร้อน และรณรงค์ให้คนไทยได้มีส่วนร่วมในการช่วยลดปัญหาดังกล่าว ด้วยการลดการใช้พลังงานไฟฟ้า จึงขอเชิญประชาชนที่อาศัยอยู่ใน กรุงเทพมหานคร นนทบุรี และสมุทรปราการ ร่วม แข่งขันลดปริมาณการใช้ไฟฟ้าเป็นเวลา 3 เดือน และผู้ที่มีสัดส่วนการประหยัดไฟฟ้าสูงที่สุด 200 ท่าน จะได้รับรางวัลเป็นอุปกรณ์ หรือเครื่องใช้ไฟฟ้าประหยัดพลังงาน และรางวัลอื่นๆ อีกมากมาย รวมมูลค่ากว่า 1 ล้าน
นอกจากนี้ ปริมาณไฟฟ้าทั้งหมดที่ผู้เข้าร่วมโครงการสามารถประหยัดได้จะนำมาคำนวณเป็น ปริมาณคาร์บอนที่ลดได้ (หน่วยเป็นกิโลกรัม)จากนั้น ธนาคาร HSBC และผู้สนับสนุน จะร่วมบริจาคเงิน 1 บาทต่อประมาณคาร์บอนที่ลดได้ 1 กิโลกรัม เพื่อนำไปสร้าง "ห้องสมุดสีเขียว" ซึ่งจะเป็นห้องต้นแบบให้ประชาชนทั่วไปได้ศึกษาวิธีการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมในการใช้ชีวิตประจำวัน
ขั้นตอนการแข่งขัน
การแข่งขันการลดปริมาณการใช้ไฟฟ้ารายเดือน จะเริ่มตั้งแต่ เดือนสิงหาคม - ตุลาคม 2552 โดยทางโครงการจะเลือกเดือนที่มีปริมาณการใช้ไฟน้อยที่สุดมาเทียบกับยอดการใช้ไฟฟ้าในเดือนมิถุนายน 2552 เพื่อคำนวณอัตราการประหยัดไฟ
ทั้งนี้ ผู้ที่สามารถลดการใช้ไฟฟ้าได้มากที่สุด (คิดเป็นร้อยละ) 200 ท่านแรก จะได้รับของรางวัลจากโครงการฯ
วิธีการลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการ
* พิมพ์ BBS (เว้นวรรค) รหัสเครื่องวัดฯ (เว้นวรรค) ชื่อ-นามสกุล ของผู้สมัครเข้าร่วมโครงการ
ส่งมาที่หมายเลข 4268888
จากนั้นจะได้รับ SMS ตอบรับเข้าร่วมโครงการ(SMS ครั้งละ 3 บาท)
* ลงทะเบียนผ่านทาง www.hsbc.co.th
ผู้ที่สนใจสามารถลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการได้ตั้งแต่ วันนี้ - 30 กันยายน 2552
รายละเอียดเพิ่มเติม
www.hsbc.co.th
วันอังคาร, สิงหาคม 04, 2552
เชิญประกวดโครงงานพลังงานลม (Wind of Challenge)
![](http://www.energy.go.th/MOEN/image/DynamicContent/PhotoTh_402.gif)
สิ้นสุดการรอคอยแล้ว สำหรับน้องๆที่กำลังลุ้นอยู่ว่า โครงการต้นกล้าพลังงานปี 6 จะใช้หัวข้ออะไรในการประกวด หลังจากที่พี่ๆทีมงานกระทรวงพลังงานนั่งคิด นอนคิด ยืนคิดกันหลายตลบ ก็เห็นพ้องต้องกันว่า สิ่งประดิษฐ์ “พลังงานลม” (Wind of Challenge) จะเป็นความท้าทายใหม่สำหรับน้องๆต้นกล้าปี 52 นี้ อ่านรายละเอียดหลักเกณฑ์ด้านล่างนี้ได้เลยครับ (อ่ะอ่ะ ปีนี้เราเพิ่มเงินทุนสนับสนุนโครงงาน และจำนวนทีมที่จะผ่านการคัดเลือกเข้าร่วมการประกวดระดับประเทศด้วยนะครับ)หลักเกณฑ์การประกวดโครงงาน |
วันจันทร์, สิงหาคม 03, 2552
Think Future Energy Photography Contest มองพลังงานผ่านเลนส์
ชวนเยาวชนไทยประกวดวาดภาพระบายสี "ตามรอยพ่อ อนุรักษ์-พัฒนาพลังงานทดแทน"
บริษัท สเต็ดเล่อร์ (ประเทศไทย) จำกัด ขอเชิญฃวนเยาวชนไทยระดับประถมศึกษาทั่วประเทศส่งภาพเข้า "ประกวดวาดภาพระบายสี"ในหัวข้อ "ตามรอยพ่อ อนุรักษ์-พัฒนาพลังงานทดแทน"
เพื่อส่งเสริมเยาวชนไทยได้ศึกษาถึงแนวพระราชดำริในการอนุรักษ์-พัฒนาพลังงานทดแทน และน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สำหรับเยาวชนไทยทั่วประเทศที่สนใจส่งผลงานเข้าร่วมประกวดคุณสมบัติหลักคือต้องเป็นนักเรียนในระดับชั้นประถมศึกษาตอนต้น และระดับประถมศึกษาตอนปลายเท่านั้น ส่งภาพวาดระบายสีขนาด 15X 22 นิ้ว ด้วยสีไม้ สีน้ำ สีไม้ระบายน้ำ สีชอล์ก หรือสีเทียน สำหรับรางวัลของแต่ละรุ่น คือ
- ชนะเลิศ ถ้วยประทาน พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ ทุนการศึกษา 20,000 บาท อุปกรณ์เครื่องเขียน สเต็ดเล่อร์ มูลค่า 5,000 บาท
- รองชนะเลิศอันดับ 1 เกียรติบัตร จากสเต็ดเล่อร์ (ประเทศไทย) จำกัด ทุนการศึกษา 15,000 บาท อุปกรณ์เครื่องเขียน สเต็ดเล่อร์ มูลค่า 3,000 บาท
- รองชนะเลิศอันดับ 2เกียรติบัตร จากสเต็ดเล่อร์ (ประเทศไทย) จำกัด ทุนการศึกษา 10,000 บาท อุปกรณ์เครื่องเขียน สเต็ดเล่อร์ มูลค่า 2,000 บาท
- รางวัลชมเชย เกียรติบัตร จากสเต็ดเล่อร์ (ประเทศไทย) จำกัด ทุนการศึกษา 5,000 บาท อุปกรณ์เครื่องเขียน สเต็ดเล่อร์ มูลค่า 1,500 บาท
7 วัน 7 วิธี รักษ์โลกของเรา
โรงภาพยนตร์ในเครือเอสเอฟ ร่วมกับโรงงานยาสูบ กระทรวงการคลัง จัดโครงการเพื่อสังคมและสิ่งแวดล้อม “7 วัน 7 วิธี รักษ์โลกของเรา” พิเศษกระตุ้นการรับรู้และมีส่วนร่วมของลูกค้ากับกิจกรรมสุดประทับใจ โดยลูกค้าที่มาชมภาพยนตร์ทุก 2 ที่นั่ง “รับฟรีทันทีโปสต์การ์ดรักษ์โลก” พร้อมให้ได้ร่วมสร้างสรรค์ไอเดียช่วยลดโลกร้อนในแบบของคุณ
เพียงเขียนข้อความลงบนชิ้นส่วนไปรษณียบัตร และส่งได้ที่กล่องรับชิ้นส่วนหน้าโรงภาพยนตร์ในเครือเอสเอฟทั้ง 19 สาขาทั่วประเทศ ลุ้นรับของที่ระลึกจาก 7 ศิลปิน-ดาราต้นแบบชื่อดัง ได้ตั้งแต่วันนี้ถึง 31 ส.ค.นี้ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ 02-611-7111 ต่อ 530, 531
วันอาทิตย์, สิงหาคม 02, 2552
ไหว้ครู ปีนี้มีอะไรดีๆๆมาให้ดู
หลังจากที่งานวันไหว้ครูผ่านไป เราก็มีภาพบรรยากาศดีๆมาฝากกานนะคับ โดยพานปีนี้จะมี Concept ที่ว่า "เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม" โดยพานที่ทำออกมาจะต้องเน้น ความประหยัด ใช้วัสดุธรรมชาติ ดูดี องค์ประกอบหรือสัญลักษณ์ในวันไหว้ครูครบท้วน และที่สำคัญ ต้องเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมด้วย โดยจะแบ่งเกณฑ์การประเมินออกเป็น 2 ประเภท คือ ประเภทสวยงาน และ สร้างสรรค์ ใครสนใจดูพานสวยๆในครั้งนี้กานเลย
ideaGREEN ชวนน้องรักษ์ธรรมชาติ
![](http://www.environment-club.com/images/stories/2009/activity/ideagreen.jpg)
![](http://www.ideakrachood.com/images/prize_02.jpg)
คลิปวีดีโอเกี่ยวกับกระดาษและสิ่งแวดล้อม ไม่จำกัดเรื่องเรา ไม่กำจัดแนวคิด จำกัดแค่ความยาวไม่เกิ น 3 นาที และขอให้มีไอเดียกระฉูด ผลงานที่มีแววไอเดียกระฉูดที่สุด 20 ผลงาน จะได้รับการคัดเลือกเข้ารอบชิงชนะเลิศ เพื่อไปเข้าค่ายเหลาคลิปกับไอดอลชื่อดัง
กติกา
คลิปวีดีโอความยาวไม่เกิน 3 นาที (สั้นกว่าได้ แต่ห้ามเกิน)
ใช้ไฟล์ wmv, mp4, mpeg, flv, 3gp ขนาดไฟล์ต้องไม่เกิน 10 MB สำหรับส่งผลงานทางเว็บไซต์ และ 20 MB สำหรับส่งผลงานทางไปรษณีย์
ไม่จำกัดการวิธีการถ่ายทำ ใช้กล้องอะไรก็ได้ ไม่ว่าจะเป็น กล้องมือถือ, กล้องถ่ายรูปดิจิตอล, กล้อง Handy-cam , กล้องฟิล์ม ส่วนการตัดต่อแต่งเติมคลิป สามารถทำได้หรือจะมาแบบดิบๆไม่ทำอะไรเพิ่มเติมก็ได้...แล้วแต่ไอเดียของใครของมัน
ไม่จำกัดจำนวนสมาชิกในทีม (จะทำคนเดียวก็ได้, ทำคู่, ทำคี่, ทำทั้งหมู่บ้าน ได้หมด)
เกณฑ์การตัดสิน
ความคิดสร้างสรรค์แปลกใหม่ 45%
เนื้อหาที่คม สื่อสารได้ตรงประเด็น 35%
ความสอดคล้องระหว่างภาพและเนื้อหา 20%
สิ่งประดิษฐ์กระฉูด เพื่อธรรมชาติ
สิ่งประดิษฐ์เพื่อธรรมชาติ ไม่จำกัดรูปแบบ ไม่จำกัดแนวคิด สร้างสรรค์โดยนำชิ้นส่วนใดก็ได้ของกระดาษไอเดีย กรีน ไปเป็นส่วนประกอบไม่ว่าจะเป็นกระดาษ A4/ เปลือกห่อ / หรือกล่อง โดย Sketch ภาพชิ้นงานพร้อมคำอธิบายลงบนกระดาษ A4 ผู้ที่มีแววไอเดียกระฉูดที่สุด 10 ทีม จะได้รับการคัดเลือกเข้ารอบชิงชนะเลิศ เพื่อไปเข้าค่ายเหลาไอเดียกับไอดอลชื่อดัง
กติกา
ส่งผลงานโดยวาดภาพพร้อมคำอธิบายลงบนกระดาษ A4 ความสวยงามของภาพไม่เกี่ยว ขอให้ดูแล้วเข้าใจก็พอ สามารถส่งผลงานได้ 2 ช่องทาง
สิ่งประดิษฐ์นั้นต้องสามารถทำได้จริง
ไม่จำกัดจำนวนสมาชิกในทีม (จะทำคนเดียวก็ได้, ทำคู่, ทำคี่, ทำทั้งหมู่บ้าน ได้หมด)
เกณฑ์การตัดสิน
ความคิดสร้างสรรค์ (แปลกใหม่) 40%
ความมีประโยชน์ต่อสิ่งแวดล้อม 30%
สามารถใช้งานได้จริง 30%
พิเศษ !! รางวัล Popular vote และผู้โหวต
Popular Vote เป็นรางวัลพิเศษประมาณ “ขวัญใจช่างภาพ” ในการประกวดนางงาม ผู้ที่ได้รับคะแนนโหวตมากที่สุด รับไปเลยเงินรางวัล 5,000 บาท สำหรับคลิปกระฉูด กู้โลก 1 รางวัล สิ่งประดิษฐ์กระฉูด เพื่อธรรมชาติ 1 รางวัล (โดยไม่ต้องพิจารณาเกณฑ์การตัดสินใดๆทั้งสิ้น แบบว่าใครคะแนนโหวตเยอะ เพื่อนแยะ แม่ยกบานก็ได้ไปเลย) และรางวัลปลอบใจสำหรับผู้มาร่วมโหวต จำนวน 30 รางวัล รับบัตรชมภาพยนตร์ Major 30 ใบ (รางวัลละ 1 ใบ)
กฎ-กติกาและเกณฑ์การตัดสินรอบชิงชนะเลิศ
หลังจากผ่านรอบแรกมาได้ ถือว่าคุณ ‘แน่’ ในระดับหนึ่ง แต่ถ้าจะแน่ให้สุด ต้องชนะในรอบนี้กับ 20 ผลงานสุดท้ายของคลิปกระฉูด กู้โลก และ10 ผลงานสุดท้ายของสิ่งประดิษฐ์กระฉูด เพื่อธรรมชาติ ซึ่งจะมีเวลาให้เตรียมพร้อมราวๆ 1 เดือน ระหว่างนี้จะพาไป work shop เหลาคลิปกับไอดอลชื่อดัง อาทิเช่น ทรงกลด บางยี่ขัน แห่ง a day, โอ่ง กงพัฒน์ ศักดาพิทักษ์ และ คมสัน นันทจิต เพื่อลับฝีมือให้เจ๋งเป้งเหนือชั้น จนพร้อมสำหรับวันตัดสินในเดือนตุลาคม ณ Central World
กติกาและเกณฑ์การตัดสิน เพื่อความตื่นเต้น กติกาจะแจ้งให้ผู้เข้ารอบชิงชนะเลิศทราบในวันเหลาคลิป!!!
การส่งผลงาน
สามารถส่งผลงานได้ 2 ช่องทางคือ
1. สำหรับขนาดไฟล์ไม่เกิน 10 mbps สามารถ Upload ผ่านทาง www.ideaonpaper.com/ideakrachood หรือ
2. สำหรับขนาดไฟล์ไม่เกิน 20 mbps ส่ง CD ทางไปรษณีย์มาที่ “คุณ ไอเดียกระฉูด” บริษัทเอสซีจี เปเปอร์ จำกัด อาคาร 4 ชั้น 8 เลขที่ 1 ถ.ปูนซิเมนต์ไทย บางซื่อ กรุงเทพฯ 10800
ส่งผลงานสุดกระฉูดภายในวันอังคารที่ 11 สิงหาคม พ.ศ. 2552 (นับวันที่ตีตราไปรษณีย์สุดท้ายวันที่ 11 สิงหาคม 2552 และปิดรับการ Upload ผลงานผ่านทาง website เวลา 24.00 น. ของวันที่ 11 สิงหาคม 2552)
เงื่อนไขการสมัคร
1. ผู้เข้าประกวดต้องเป็นนิสิต นักศึกษา จากมหาวิทยาลัยระดับปริญญาตรีหรือเทียบเท่า อายุ 18-25 ปี เท่านั้น
2. สัญชาติไทย และเป็นคนรุ่นใหม่ที่มีความคิดสร้างสรรค์สุดขีดและรักในสิ่งแวดล้อมสุดหัวใจ
3. ผู้เข้าประกวดจะส่งผลงานเป็นทีมหรือส่งผลงานเดี่ยวก็ได้ตามใจ (ไม่จำกัดจำนวนสมาชิกในทีม)
ผู้เข้าประกวด 1 คน (หรือ 1 ทีม) สามารถส่งผลงานประกวดพร้อมกันสองประเภทได้ โดยแต่ละคนสามารถส่งผลงานได้ไม่เกิน 3 ผลงานต่อประเภท โดยมีสิทธิ์ ได้รับรางวัลสูงสุดจากการพิจารณาของคณะกรรมการเพียงรางวัลเดียวเท่านั้น
4. ผลงานที่ส่งเข้าประกวดต้องไม่ลอกเลียนแบบใคร หรือเคยส่งประกวดที่ใดมาก่อน และผลงานที่ส่งเข้าร่วมโครงการถือเป็นลิขสิทธิ์ของ SCG Paper แต่เพียงผู้เดียว บริษัทฯสามารถดัดแปลง แก้ไขผลงานดังกล่าวและ/หรือนำไปเผยแพร่สู่สาธารณะได้โดยมิต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า และขอสงวนสิทธิ์ไม่คืนผลงานที่ส่งประกวด
5. บริษัทฯ ไม่อนุญาตให้พนักงานของบริษัทเอสซีจี เปเปอร์ จำกัด (มหาชน), บริษัท Creative Juice จำกัด, บริษัท ท๊อปสเปซ (ประเทศไทย) จำกัผู้ที่เกี่ยวข้อง และญาติของพนักงาน หรือ ญาติของตัวแทนเข้าร่วมเล่นกิจกรรม
6. บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการตอบรับหรือปฏิเสธการสมัครเข้าเล่นใดๆ ที่บริษัทฯ เห็นว่า การสมัครนั้นๆ ไม่ได้เป็นไปตามกฎและข้อตกลงของกิจกรรม หรืออาจจะทำลายการเล่นกิจกรรม และทางบริษัทฯ มีสิทธิ์เต็มที่ในการพิจารณาไม่ให้ผู้ใดเป็นผู้ร่วมเล่นกิจกรรม และมีสิทธิ์ที่เปลี่ยนแปลง, แก้ไข หรือยกเลิกกฎ กติกา การให้คะแนน และการให้รางวัลตามความเหมาะสมเมื่อใดก็ได้ และการตัดสินของคณะกรรมการถือว่าเป็นที่สิ้นสุด
ติดต่อสอบถาม รายละเอียดโครงการ
“คุณไอเดียกระฉูด” E-mail: ideaonpaper@scg.co.th โทร 02-586-3032 หรือ 02-586-1041
ปัญหาในการUploadผลงานผ่านทางWebsite คุณพชรอร 02-833-3131 ต่อ 1102
http://www.ideakrachood.com/prize.php
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
ห้องศิลปะนะครับ พอดีประธานสุดหล่อเดินผ่านไปเห็นมีโปสเตอร์มาติดในบอร์ดประชาสัมพันธ์แล้ว บริษัทคงจะส่งมาให้ ยังงัยถ้าใครสนใจก็ติดต่อห้องศิลปะได้เลยครับ
โครงการ 24 คน 150 ต้น ปลูกป่าชายเลยน ถวายแด่ในหลวง ครั้งที่่ 1
ส่วนใครจะดูข้อมูลโครงการ ก็เลือกหัวข้อโครงการทางชุมนุมได้เลยครับ
รร.มหาวชิราวุธ สงขลาจัดวิ่งเพื่อสุขภาพ
ที่ สนามฟุตบอล โรงเรียนมหาวชิราวุธสงขลา อ.เมือง จ.สงขลา นายสัจจา ศรีเจริญ ผู้อำนวยการโรงเรียนมหาวชิราวุธสงขลา เป็นประธานเปิดโครงการวิ่งเพื่อสุขภาพ ตามยุทธศาสตร์ส่งเสริมสุขภาพอนามัยของนักเรียน และสร้างภูมิคุ้มกันต้านโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ซึ่งกำลังระบาดอยู่ในขณะนี้ โดยให้นักเรียนทุกคนวิ่งรอบสนามฟุตบอล 100 รอบต่อปี ซึ่งนักเรียนจะวิ่งช่วงเช้า หรือ ช่วงตอนเย็น หลังเลิกเรียนวันละกี่รอบก็ได้ แต่ในระยะเวลา 1 ปี ต้องครบ100 รอบ โดยมีครูอาจารย์กำกับดูแลและลงนามรับรองทุกครั้ง และในวันนี้ ซึ่งเปิดสนามเป็นวันแรก นายสัจจา ลงสนามนำนักเรียนกว่า 700 คน ออกวิ่งจำนวน 2 รอบ
ซึ่งกิจกรรมที่จัดขึ้นดังกล่าว เพื่อส่งเสริมให้นักเรียน มีระเบียบวินัย มีการออกกำลังกายอย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอมีสุขภาพที่ดี มีความรับผิดชอบต่อหน้าที่ และทางโรงเรียนจะทราบประวัติด้านสุขภาพของนักเรียนทุกคน ที่สำคัญ
เมื่อนักเรียนมีร่างกายแข็งแรง จะสามารถต้านทานโรคภัยต่าง ๆ โดยเฉพาะ โรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ได้เป็นอย่างดี
อ้างอิง
โรงเรียนมหาวชิราวุธสงขลา คุมเข้มโรคไข้หวัดใหญ่ 2009
ข่าว สันติภาพ รามสูต / สงขลา / โรงเรียนมหาวชิราวุธสงขลา คุมเข้มโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 เข้าโรงเรียน ใช้เจลล้างมือพร้อมแจกหน้ากากอนามัยนักเรียนทุกคนกว่า 3,500 อัน โดยไม่มีการปิดโรงเรียนและเห็นว่าการปิดเรียนไม่สามารถแก้ปัญหาการระบาดได้
เมื่อเวลา 07.30 น. วันที่ 17 กรกฎาคม 2552 ที่โรงเรียนมหาวชิราวุธสงขลา ถนนราชดำเนิน อ.เมือง จ.สงขลา ทางโรงเรียนใช้มาตรการป้องกันการระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 เข้าโรงเรียน โดยใช้เจลล้างมือนักเรียนทุกคนรวมทั้งครูและอาจารย์ก่อนเข้าโรงเรียนตั้งแต่บริเวณหน้าประตูโรงเรียนพร้อมแจกหน้ากากอนามัยนักเรียนทุกคนกว่า 3,500 อันให้สวมใส่ขณะอยู่ในโรงเรียนตลอดเวลา โดยไม่มีการปิดโรงเรียน เนื่องจากเกรงว่า หากปิดโรงเรียนจะทำให้เด็กนักเรียนเสียโอกาสและเห็นว่าการปิดเรียนไม่สามารถแก้ปัญหาการระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ได้ อีกทั้งในช่วงนี้เป็นช่วงสอบกลางภาค ทางโรงเรียนไม่ต้องการให้เด็กนักเรียนป่วยจึงต้องวางมาตรการคุมเข้ม รวมทั้งตั้งแต่วันจันทร์ที่ 21 กรกฎาคม 2552 เป็นต้นไป นักเรียนครูอาจารย์ จะต้องสวมหน้ากากอนามัยเข้าโรงเรียนทุกคน มิฉะนั้นจะไม่ให้เข้ามาในโรงเรียนเด็ดขาด รวมไปถึงผู้ที่จะเดินทางมาติดต่อราชการที่โรงเรียนด้วย โดยจะมีการเขียนป้ายประกาศติดไว้ที่ประตูทางเข้าหน้าโรงเรียน
ในส่วนของทางโรงเรียนเองก็มีคำสั่งให้ห้องพักครูงดใช้เครื่องปรับอากาศชั่วคราวโดยให้เปิดหน้าต่างให้อากาศถ่ายเทได้สะดวก ตลอดจนให้แม่บ้านและนักการภารโรงทำความสะอาดห้องพักครู ห้องน้ำ โรงอาหาร รวมไปถึงห้องปฏิบัติการต่างๆที่มีนักเรียนเข้าไปใช้เป็นจำนวนมาก โดยใช้น้ำยาฆ่าเชื้อทำความสะอาดเป็นพิเศษกว่าช่วงปรกติ
นายสัจจา ศรีเจริญ ผู้อำนวยการโรงเรียนมหาวชิราวุธสงขลา กล่าวว่า เนื่องจากในขณะนี้ มีการแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ทั้งนี้สถาบันการศึกษา ซึ่งเป็นสถานที่ที่มีนักเรียนอยู่ร่วมกันเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะที่โรงเรียนมหาวชิราวุธสงขลา ปัจจุบันนี้มีนักเรียนตั้งแต่ระดับมัธยมศึกษาปีที่ 1 – 6 จำนวน 3,500 คน จึงมีโอกาสจะเกิดการแพร่ระบาดได้ ดังนั้น เพื่อสกัดกั้นการแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ในพื้นที่ภายในโรงเรียนและเป็นการสกัดกั้นไม่ให้โรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 เข้ามาในโรงเรียน ทางโรงเรียนได้สร้างการมีส่วนร่วมจากนักเรียนดำเนินการตามมาตรการควบคุมป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ โดยจัดซื้อเจลล้างมือและหน้ากากอนามัยแจกนักเรียนและครูอาจารย์ทุกคนให้สวมหน้ากากอนามัยขณะอยู่ในโรงเรียนตลอดเวลา อีกทั้งก่อนเข้าโรงเรียนก็จะให้นักเรียนใช้เจลล้างมือทำความสะอาดที่หน้าประตูเข้าโรงเรียนทุกคน เพื่อเป็นการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 เข้ามาในโรงเรียน