ชุมนุมรักษ์สิ่งแวดล้อม โรงเรียนมหาวชิราวุธจังหวัดสงขลา [MV E-Club]
ยินดีต้อนรับสู่ชุมชนคนรักษ์สิ่งแวดล้อม
โครงการทั้งหมดของชุมนุม
วันพุธ, กันยายน 16, 2552
สนใจสมัครด่วน
เชื่อหรือไม่ว่าทุกวันนี้ คนไทยสร้างขยะ 40,000 ตันต่อวัน
เชื่อหรือไม่ว่าทุกวันนี้ คนไทยสร้างขยะ 40,000 ตันต่อวัน นึกภาพว่า ช้างโตเต็มวัยอวบอ้วนสมบูรณ์ น้ำหนักจะอยู่ที่ 4 ตัน (4,000 กิโลกรัม) ไอ้ขยะที่พวกเราสร้างต่อวัน หนักเท่ากับช้างตัวใหญ่ๆ 10,000 ตัวเชียวนะ!! คิดดูว่าภาระการแบกขยะที่หนักเท่ากับช้างหมื่นตัวนี่มันไม่ใช่เล่นๆ เลย รถขนขยะก็ต้องใช้น้ำมัน ไหนจะถนนทรุดโทรมอีกเพราะขนกันทุกวี่วัน และในขยะ 4หมื่นตันต่อวัน นี้ เป็นขยะถุงพลาสติก ถึง 1,800 ตันต่อวัน เทียบเท่าช้างยักษ์ 450 ตัว ถุงแต่ละใบใช้เวลาย่อย 400 - 1,000 ปี ซึ่งถ้าเราช่วยกันลดถุงพลาสติกลงได้ แค่เพียง 10% จะช่วยลดค่าใช้จ่ายในการเก็บและจัดการขยะของรัฐได้ถึง 650 ล้านบาทต่อปี (ภาษีพวกเราล้วนๆ) และลดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ถึง 1 ล้านตันต่อปีเชียวนะ!
งานนี้ไม่ใช่การประกาศจากภาครัฐฯแต่เพียงอย่างเดียว เพราะภาคสังคม NGO รวมถึงภาคเอกชนผ่านสมาคมผู้ค้าปลีกแห่งประเทศไทย ต่างก็เข้าร่วมโครงการด้วย ถึงแม้ว่านี่จะเป็นแค่เพียงการเริ่มต้น แต่ก็นับว่าเป็นการเริ่มต้นที่ดี เพราะได้รับความร่วมมือจากหลายฝ่าย แต่การรณรงค์ครั้งนี้จะประสบความสำเร็จไม่ได้ ถ้าไม่ได้รับความร่วมมือจาก "คุณ"
เอาถุงผ้า กระเป๋า เป้ ตะกร้า หรือถุงก๊อบแก๊บใบเก่าออกมาใช้กันเถอะ
วันพฤหัสบดี, กันยายน 10, 2552
100 สถานที่ ที่น่าจดจำก่อนจะหายไปจากโลก
"100 สถานที่ ที่น่าจดจำก่อนจะหายไปจากโลก"
100 สถานที่ ที่น่าจดจำก่อนจะหายไปจากโลก เป็นผลงานที่จะสะท้อนให้เห็นปัญหาของภาวะโลกร้อนที่กำลังส่งผลกระทบกับธรรมชาติและมนุษย์ ถูกจัดทำขึ้นโดยกลุ่ม Co+Life ซึ่งร่วมก่อตั้งโดย Stine Norden และ Søren Rud ซึ่งเป็นผู้ที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของนิทรรศการ “Earth from Above” and “Spirit of the Wild” ในประเทศเดนมาร์ก
100 สถานที่ ที่น่าจดจำก่อนจะหายไปจากโลก ถูกผลิตขึ้นมาเป็นหนังสือ โปสเตอร์ และโปสการ์ด รวมถึง 100 สารคดีสั้นๆ ของสถานที่ ที่จะหายไปจากโลกเพราะผลกระทบของภาวะโลกร้อน ที่จะได้ออกอากาศทางโทรทัศน์ของหลายๆประเทศ ซึ่งรวมถึงช่อง 3 ของประเทศไทยด้วย
ผลกระทบของภาวะโลกร้อนต่อ 100 สถานที่นั้น แบ่งออกเป็น 9 ประเภทดังนี้
1. ระดับน้ำทะเลที่สูงขึ้น
2. การละลายของน้ำแข็งในทะเล
3. อุณหภูมิที่สูงขึ้น
4. แนวปะการังถูกทำลาย
5. ฝนตกน้อยลง
6. ธารน้ำแข็งละลาย
7. กลายเป็นทะเลทราย
8. การละลายของน้ำแข็งบนพื้นดิน
9. สภาพอากาศที่รุนแรง
ท่านสามารถเข้าไปดู 100 สถานที่ ที่ไหนจะหายไปเพราะสาเหตุข้างต้นได้ที่ www.100places.com
ส่วนกรุงเทพมหานครของเราก็เป็นสถานที่ ที่ 58 ซึ่งเราควรจะจดจำไว้ก่อนที่จะหายไปเพราะระดับน้ำทะเลสูงขึ้น ถึงเวลาแล้วหรือยังที่จะหันมามองปัญหาภาวะโลกร้อน หรือต้องรอให้ถึงวันที่กรุงเทพจมอยู่ใต้ทะเลก่อน
ที่มา http://www.greentheearth.info/
วันอังคาร, กันยายน 08, 2552
โลกร้อนส่งผล 100 ปีระดับน้ำทะเลพุ่ง 1 เมตร
องค์กรอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมชื่อดังของโลก ประเมินว่า ระดับน้ำทะเลจะเพิ่มสูงกว่า 1 เมตร ในราว 100 ปีข้างหน้า
กองทุนสัตว์ป่าโลก หรือ "ดับเบิลยูดับเบิลยูเอฟ" (WWF) ซึ่งเป็นองค์กรอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมระหว่างประเทศ คาดการณ์ว่าในปีพ.ศ. 2643 หรือเกือบ 100 ปีข้างหน้า ระดับน้ำทะเลจะเพิ่มขึ้นถึง 1.2 เมตร ซึ่งมากกว่าตัวเลขที่สหประชาชาติคาดการณ์เอาไว้ที่ 59 เซนติเมตรถึง 1 เท่าตัว
"ภาวะโลกร้อนจะส่งผลให้น้ำแข็งขั้วโลก ทั้งขั้วโลกเหนือและใต้ละลาย ทำให้ระดับน้ำทะเลเพิ่มสูงขึ้นและเกิดน้ำท่วม ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อประชากรถึง 1 ใน 4 ของจำนวนประชากรโลก ดังนั้นเราจึงตัดสินใจแจ้งเตือนเรื่องดังกล่าวก่อนที่จะมีการประชุมแก้ปัญหาโลกร้อนที่ประเทศเดนมาร์ก ในเดือนธันวาคม 2552" รายงานกองทุนสัตว์ป่าโลกระบุ
ที่มา www.khaosod.co.th
กองทุนสัตว์ป่าโลก หรือ "ดับเบิลยูดับเบิลยูเอฟ" (WWF) ซึ่งเป็นองค์กรอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมระหว่างประเทศ คาดการณ์ว่าในปีพ.ศ. 2643 หรือเกือบ 100 ปีข้างหน้า ระดับน้ำทะเลจะเพิ่มขึ้นถึง 1.2 เมตร ซึ่งมากกว่าตัวเลขที่สหประชาชาติคาดการณ์เอาไว้ที่ 59 เซนติเมตรถึง 1 เท่าตัว
"ภาวะโลกร้อนจะส่งผลให้น้ำแข็งขั้วโลก ทั้งขั้วโลกเหนือและใต้ละลาย ทำให้ระดับน้ำทะเลเพิ่มสูงขึ้นและเกิดน้ำท่วม ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อประชากรถึง 1 ใน 4 ของจำนวนประชากรโลก ดังนั้นเราจึงตัดสินใจแจ้งเตือนเรื่องดังกล่าวก่อนที่จะมีการประชุมแก้ปัญหาโลกร้อนที่ประเทศเดนมาร์ก ในเดือนธันวาคม 2552" รายงานกองทุนสัตว์ป่าโลกระบุ
ที่มา www.khaosod.co.th
10 วิถีทางเลือก ใช้ชีวิตลดโลกร้อ
10 วิถีทางเลือก ใช้ชีวิตลดโลกร้อน
10 วิถีทางเลือก ใช้ชีวิตลดโลกร้อน (momypedia)
โดย Eiffel
ปัญหาโลกร้อนที่เกิดขึ้นในปัจจุบันได้แผ่อิทธิฤทธิ์ไปทั่วทุกมุมโลกและถือเป็นสัญญาณอันตรายที่ทำให้ทุกคนต้องหันมาใส่ใจและทบทวนบทบาทตัวเอง รวมทั้งร่วมกันหาทางเยียวยารักษาโลกใบนี้ไว้ก่อนที่จะสายเกินไป!
แต่ถ้าคุณยังไม่รู้ว่าจะช่วยลดโลกร้อนจากตรงไหน เรามี 10 วิถีทางเลือกดีๆ มาบอก รับรองคุณช่วยรักษาโลกได้แน่นอนคะ
1. ใช้ถุงผ้า แทนถุงพลาสติก เป็นสิ่งที่คุณทำได้ง่ายๆ และใกล้ตัวมากที่สุด โดยเลือกขนาดของถุงที่ผ้าแบบเก๋ๆ ดีไซน์โดนใจคุณไว้สักหนึ่งใบ เวลาไปชอปปิ้งข้าวของเครื่องใช้ชิ้นเล็กๆ อย่างต่างหู เครื่องประดับ เสื้อผ้าชิ้นเล็กชิ้นน้อย เมื่อซื้อเสร็จแล้วก็เอาใส่ถุงผ้าแทน ก็เป็นการช่วยลดการใช้ถุงพลาสติกขนาดเล็ก และโฟมที่ใช้ในการบรรจุสินค้าได้เป็นจำนวนมาก
ที่สำคัญ อย่าลืมปฏิเสธถุงพลาสติกเวลาซื้อสินค้าให้เป็นนิสัย เพราะเมื่อนำกลับมาบ้านแล้วคนส่วนใหญ่จะทิ้งลงถังขยะและทุกครั้งที่ต้องใช้ถุงพลาสติกให้นึกถึงหลัก Reuse ก่อนใช้
2. เปลี่ยนมาใช้ของมือสอง เสื้อผ้าหรือเครื่องประดับบางชิ้นไม่จำเป็นต้องซื้อใหม่เสมอ เพราะสินค้าทุกชิ้นที่วางขายล้วนมีต้นทุนในการผลิตอย่างมหาศาล การซื้อแบบไม่ติดเบรก จึงเท่ากับกระตุ้นการผลิตและเร่งตักตวงใช้ทรัพยากรมากเกินไป ลองเปลี่ยนจากการซื้อของใหม่เป็นการซ่อมหรือใช้ของมือสองแทน รวมไปถึงใช้เสื้อผ้าที่ผลิตจากเส้นใยธรรมชาติ เช่น เสื้อผ้าออร์แกนิกไม่ต้องฟอกย้อม ที่ช่วยป้องกันไม่ให้สารเคมีที่มีอันตรายเข้าสู่ร่างกายของตัวคุณเองได้
3. เดินหรือขี่จักรยานแทนการใช้รถยนต์ ถ้าคุณจะไปซื้อของในจุดที่รัศมีไม่ไกลจากบ้านนัก ก็ไม่ต้องขับรถยนต์ไป ให้ใช้เดินหรือขี่จักรยานแทน เช่น เดินออกไปซื้อกับข้าวหน้าหมู่บ้าน ก็ถือเป็นการออกกำลังกายทางหนึ่ง ที่สำคัญอย่าลืมเอาตะกร้า ถุงผ้า หรือปิ่นโตไปใส่ให้เคยชิน เป็นการช่วยลดการน้ำมันและประหยัดเงินได้อีกด้วย
4. เลือกใช้ เลือกซื้อ ผลิตภัณฑ์ที่มีบรรจุภัณฑ์หรือหีบห่อน้อยๆ เพื่อลดปริมาณขยะจำนวนมากที่จะเกิดขึ้นในโลก และหันมาใช้สินค้าที่มีบรรจุภัณฑ์ทำจากธรรมชาติแทนกล่องโฟม เช่น กล่องใส่ข้าวจากกระดาษหรือชานอ้อย หรือซื้อขนมที่ห่อใบตองกินแทนขนมขบเคี้ยว หรือสั่งอาหารปิ่นโตมากินที่ออฟฟิศ นอกจากราคาไม่แพงแล้ว บรรจุภัณฑ์ยังไม่เป็นพิษเป็นภัยต่อโลกด้วย
5. ลดปริมาณขยะในบ้าน ใช้ประโยชน์จากสิ่งของต่างๆ ในบ้านให้คุ้มค่า เช่น ถุงใส่ของที่ได้มาจากการจับจ่ายซื้อของ ก็สามารถนำมาใส่ของได้อีกหรือถ้าเก่าแล้วก็นำมาใช้เป็นถุงใส่ขยะ เสื้อผ้าที่ไม่ใช้แล้ว ก็นำมาดัดแปลงเป็นของใช้อื่นๆ เช่น ผ้าขี้ริ้ว หรือนำไปบริจาคให้องค์กรการกุศล
6. แยกขยะให้เป็นนิสัย ไม่ได้ยุ่งยากอะไร เพียงแยกขยะให้เป็นสัดส่วน เช่น ขยะย่อยสลายได้ ขวดแก้วใส ขวดแก้วสี กล่องกระดาษ กระดาษสิ่งพิมพ์ กระป๋องโลหะ พลาสติก และขยะทั่วไป การแยกขยะเป็นการช่วยให้สามารถนำขยะประเภทต่างๆ ไปใช้ประโยชน์ได้อย่างเต็มที่มากขี้น ตามสูตร Reduce (ลดการใช้), Reuse (นำกลับมาใช้ใหม่) และRecycle
7. ช่วยกันปลูกต้นไม้เยอะๆ ไปปลูกป่าไม่ได้ ก็ปลูกในกระถางก็ได้ ต้นไม้ทำหน้าที่เหมือนเป็นปอดให้กับระบบนิเวศวิทยา ปลูกต้นไม้ 1 ต้นจะดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์ได้ 1 ตันตลอดอายุของมัน
8. หยุดใช้สินค้าที่มีสาร CFC ตัวการสำคัญในการทำลายชั้นโอโซนโลก หรือถ้าจะใช้ก็ใช้น้อยที่สุดหรือเท่าที่จำเป็น โดยเฉพาะเครื่องใช้ฟ้าที่ก่อให้เกิดความเย็น เช่น ตู้เย็น เครื่องปรับอากาศ ทั้งในอาคารและรถยนต์ สเปรย์ฉีดผม สเปรย์กันยุง ฯลฯ
9. หันมาใช้ผลิตภัณฑ์เสริมความงามที่ทำจากธรรมชาติ เช่น มะขามเปียก ดินสอพอง ขมิ้นขัดผิว เพื่อสุขภาพที่แข็งแรงและร่างกายที่สดชื่น เพราะในเครื่องสำอางเหล่านี้ก็ไม่มีส่วนประกอบสารเคมีที่อันตรายต่อตัวเรา และทำร้ายธรรมชาติเหมือนกับผลิตภัณฑ์เสริมความงามทั่วไป
10. คิดในแง่บวก ใครๆ ที่เคยใช้ชีวิตตามใจตัวเอง ไม่สนใจดูแลโลกหรือธรรมชาติ ย่อมรู้สึกอึดอัดบ้างเป็นธรรมดาที่ห้ามตัวเองไม่ให้ทำนู้นทำนี่ได้อย่างสุขสบายเหมือนเก่า แต่ถ้าคุณทำได้เป็นกิจวัตร คุณก็จะเป็นอีกคนหนึ่งที่ช่วยลดปัญหาร้อนโลกได้
คงไม่ใช่เรื่องยากเกินไปใช่ไหมคะ ที่เราจะช่วยกันดูแล
วันอาทิตย์, กันยายน 06, 2552
เปรียบเทียบถุงพลาสติก..ก๊อบแก๊บ vs OXO vs Biodegradable
ถุงพลาสติกแบ่งกว้างๆ ได้ 3 ประเภท เรียงจากแบบที่ดีต่อสิ่งแวดล้อมมากไปน้อย ได้แก่ ไบโอดีเกรดเอเบิล > ออกโซดีเกรดเอเบิล > ก๊อบแก๊บ (โพลีเทน) มีข้อดี ข้อเสียต่างกันไปดังนี้
BIODEGRADABLE ไบโอดีเกรดเอเบิล (Bio Bag)
- ย่อยสลายภายใน 6-9 เดือน ภายใต้สภาพแวดล้อมที่เหมาะสม (โดนแสงแดด โดนอากาศ)
- ผลิตจากพืช เช่น ข้าวโพด มันฝรั่ง แป้ง ฯลฯ
- หมักเป็นปุ๋ยชีวภาพได้ ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม ไม่เป็นพิษ สัตว์กินแล้วไม่ตาย
- แพง เลยยังไม่เป็นที่นิยมใช้
- เก็บไว้นานๆ จะเปื่อย
OXO-DEGRADABLE ออกโซดีเกรดเอเบิล
- ถุงย่อยสลาย ภายใน 2-5 ปี ภายใต้สภาพแวดล้อมที่เหมาะสม(โดนแดด โดนอากาศ) ถ้าไม่ได้อยู่ในสภาพแวดล้อมที่เหมาะแก่การย่อย อาจมีชีวิตอยู่ยาวนาน เป็นร้อยปีได้เช่นกัน
- เป็นการดัดแปลงพลาสติก (ปิโตรเลียม) ให้เหนียวน้อยลง ย่อยง่ายขึ้น
- เก็บสต็อกนานๆ ได้
- ราคาปานกลาง ห้างใหญ่ๆ เริ่มนำมาใช้แล้ว แต่มักจะเขียนข้อความบนถุงว่า "ไบโอดีเกรดเอเบิล" ทำให้คนสับสน เข้าใจผิดคิดว่าเป็นถุงที่ทำจากพืช
- รีไซเคิลได้ แต่ยากในการคัดแยกประเภทถุงออกจากกัน
- หมักปุ๋ยไม่ได้ ถ้ายังย่อยไม่สมบูรณ์ สัตว์กินแล้วตายได้
ถุงพลาสติกทั่วไป
- ใช้เวลาย่อย 100 - 450 ปี
- ผลิตจากน้ำมัน/ก๊าซธรรมชาติ เป็นพลาสติกที่เรียกว่า โพลีเทน POLYTHENE
- เหนียว ทนทาน
- ราคาถูก
- รีไซเคิลได้ แต่ส่วนใหญ่ก็ได้แค่รอบเดียว (ไม่สามารถนำกลับมารีไซเคิลซ้ำแล้ว ซ้ำอีกหลายๆ รอบเหมือนอย่าง แก้ว หรือ อะลูมิเนียม)
- สัตว์กินแล้วตาย คลุมหัวนกน้ำ สัตว์น้ำ อุดตันลำไส้ปลาตาย
ประกวดเรียงความ "ถ้าโลกนี้ไม่มีน้ำมัน..."
กลุ่มบริษัทซีดีจี ชวนน้อง ๆ มัธยมสมัครร่วมโครงการ Young CDG Writer Awards ครั้งที่ 4 การประกวดเรียงความภายใต้หัวข้อ “ถ้าโลกนี้ไม่มีน้ำมัน...” ชิงทุนการศึกษามูลค่ารวม 90,000 บาท วันนี้ - 11 ก.ย. 52
กลุ่มบริษัทซีดีจี ผู้ดำเนินธุรกิจให้บริการเทคโนโลยีสารสนเทศแบบครบวงจรในประเทศไทย ตระหนักถึงความสำคัญของการรักษาสิ่งแวดล้อม และทรัพยากรธรรมชาติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งทรัพยากรน้ำมัน ซึ่งเป็นกลไกหนึ่งของระบบพลังงานที่มีความจำเป็นต่อกลไกต่างๆของการขับเคลื่อนระบบเศรษฐกิจในโลกนี้ จึงได้จัด โครงการ Young CDG Writer Awards ครั้งที่ 4 การประกวดเรียงความภายใต้หัวข้อ “ถ้าโลกนี้ไม่มีน้ำมัน...” เพื่อให้เยาวชนได้มีเวทีแสดงออกในการค้นคว้าข้อมูลความรู้ และแสดงความคิดเห็น จินตนาการ ภายใต้ผลงานเรียงความ ที่แสดงว่า ถ้าในวันหนี่งในอนาคตในโลกใบนี้ไม่มีน้ำมันแล้วจะเกิดอะไรขึ้น และถ้าไม่มีน้ำมัน เราจะหาทางออกได้อย่างไร
หลักเกณฑ์การประกวด
* ผู้เข้าประกวดต้องเป็นนักเรียนในระดับมัธยมศึกษาเท่านั้น ( มัธยมศึกษาปีที่ 1 – 6 )
* เป็นแนวคิด, จินตนาการ / ข้อเสนอ / ที่จะช่วยลดปัญหาวิกฤตด้านน้ำมัน รวมทั้งข้อเสนอของการใช้พลังงานทดแทน / การใช้พลังงานอย่างมีคุณค่า
* เป็นการนำเสนอประสบการณ์ตรงในชีวิตประจำวัน
* ความยาว ไม่เกิน 2 หน้า กระดาษ A 4
* พิมพ์ด้วย font : Angsana UPC ขนาด 16 pt. ( ถ้าในกรณีที่ไม่มี PC สามารถเขียนด้วยลายมือได้ แต่ขอให้เป็นลายมือที่อ่านง่าย/ชัดเจน )
น้อง ๆ ที่สนใจสามารถส่งผลงานเข้าประกวดได้ตั้งแต่ วันนี้ - 11 กันยายน 2552
สถานที่ส่งผลงาน
คุณจรีย์วิบูล บุญชนะโกศล
ฝ่ายประชาสัมพันธ์ กลุ่มบริษัทซีดีจี
202 อาคาร ซีดีจี เฮ้าส์ ถนนนางลิ้นจี่ แขวงช่องนนทรี เขตยานนาวา กรุงเทพฯ 10120
รายละเอียดเพิ่มเติม
ฝ่ายประชาสัมพันธ์ กลุ่มบริษัทซีดีจี
โทร. 0-2678-0200 ต่อ 2992 , 2995-9
โทรสาร 0-2678-0321-3
www.cdg.co.th
e-mail : cdgpr@cdg.co.th
วันพุธ, กันยายน 02, 2552
7000ก้าวต่อวัน คุณแข็งแรง โลกยั่งยืน
เนื่องจากเดือนกันยานที่จะถึงนี้มีวันสำคัญเกี่ยวกับโลกนั่นคือ วัน คาร์ฟรีเดย์ ผมจึงอยากรณรงคให้คุณใช้ยานพาหนะที่ดีที่สุด ที่ไม่ต้อกังวลค่าน้ำมัน ไม่ต้องห่วงหลังเรื่องเจ๊เกียวจะขึ้นค่าโดยสาร นั่นก็คือ เจ้าสองเท้าของเรานั่นเอง หลายๆคนที่ผมรู้จักเป็นโรคขี้เกียจเดิน แม้จะไปแค่ปากซอยก็ไม่วายขับมอไซค์ออกไป ทั้งที่พระเจ้าสร้างยานพาหนะที่ดีที่สุดให้กับเรา มีผลการวิจัยจากสถาบันวิทยาศาสตร์หลายๆแห่งยืนยันตรงกันว่า มนุษย์เราควรจะเดินวันละ 7000ก้าว เพื่อสุขภาพที่ดีของคุณ เพระาจะทำให้อายุยืนอย่างน้อยอีก 7ปีทีเดียว เนื่องจากร่างกายจะได้เผาผลาญในไขมันส่วนเกินออกไป สำหรับผู้ที่อยากลดน้ำหนักด้วย หรือทุกๆหนึ่งชั่วโมงเราควรจะเดิน 5-10นาที บางคนอาจจะถือโอกาสนี้ในการเริ่มต้น "เดิน"อย่างเป็นกิจวัตร ขอยกตัวอย่างรัฐบุรุษจีนท่านหนึ่ง นาม "เจียง เจ๋อ หมิน"อดีตผู้นำของจีน ได้กล่าวว่า "คนเราควรจะเดินวันละ 10000ก้าว อันเป็นจำนวนเท่ากับ 18หลุมของสนามกอลฟ์พอดี" เอาล่ะ งั้นขอจบแค่นี้ เพราะผมจะเริ่มออกเดินแล้ว เพราะมันจะช่วยสกัด ทั้งโรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง ไขมันผิดปกติ โรคหัวใจและหลอดเลือด อัมพาต และมะเร็ง แถมยัไม่ปล่อยควันพิษดว้ย เรียกว่าทั้งเราและโลกเข้มแข็งพอกัน